ผู้ติดตาม

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

เอาใจวัยรุ่นนักช๊อปกลางคืน

   สมัยนี้วัยรุ่นชอบไปเที่ยวตอนกลางคืนกันเป็นส่วนมาก  ทำให้เกิดแหล่งช๊อป กิน เที่ยว มากมาย
 หลังจากฤดูกาลได้ย่างเข้าสู่หน้าร้อนโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นฤดูที่มีแสงแดดร้อนแรงกว่าฤดูไหนๆ ทำเอาฉันแทบไม่อยากออกไปตะลอนเที่ยวที่ไหนในช่วงกลางวันเลยเพราะเพลียกับแดดที่แผดจ้าขึ้นทุกวันๆ 
       
       แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนชอบเที่ยวจึงมามองสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนแทน เพื่อหลีกหนีจากแสงแดดอันแรงของช่วงเวลากลางวัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่โชคที่มากเพราะในเขตเมืองกรุงของเรานั้นเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนมากมาย ซึ่งฉันก็ได้เลือกแล้วว่าค่ำคืนของวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะไปเที่ยวที่ “ตลาดนัดรถไฟ รัชดา” 
เพื่อที่จะมาเดินชอป ชิม ชิลแบบหลบแดดกัน 


แต่ก่อนจะไปเที่ยวนั้นฉันก็ได้ถามไถ่เส้นทางและที่ตั้ง ซึ่งก็พอรู้ประวัติแบบคร่าวๆ มาว่า “ตลาดนัดรถไฟ รัชดา” เป็นอีกหนึ่งสาขาในโครงการตลาดนัดรถไฟ ซึ่งมีที่แรกคือตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ โดยตลาดนัดรถไฟ รัชดานี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก
       
       เมื่อเดินทางมาถึงตลาดนัดรถไฟ รัชดา ฉันก็เห็นร้านค้ามากมายเรียงราย ผู้คนยังเดินขวักไขว่บรรยากาศคึกคักน่าเดินชม ภายในตลาดนัดรถไฟรัชดานั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วย ฉันเริ่มต้นการมาเที่ยวยามค่ำคืนครั้งนี้ที่ “โซนโกดัง” โดยบรรยากาศจะเป็นร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในโกดัง ในจุดนี้เป็นแหล่งรวมงานของสะสม สินค้าตกแต่งบ้านแบบวินเทจ ให้ได้เลือกดูเลือกชมเลือกซื้อ ฉันมองแล้วมีแต่ชิ้นสวยๆ ดูดีมีสไตล์ ฉันคิดในใจว่า “หากบ้านมีพื้นที่ว่างเมื่อไหร่ ก็คงจะมาเดินชมของตกแต่งสักชิ้นไปประดับบ้าน” 
หลบแดดร้อน ชอปเพลินยามค่ำ ที่ “ตลาดนัดรถไฟ รัชดา”

ถัดไปทางบริเวณด้านหลังก็จะเป็น “‎โซนรถคลาสสิก” ‬ ในส่วนนี้ก็จะมีสินค้าหลากหลายรวมถึงเรื่องอาหารกินด้วย แต่ที่เป็นไฮไลต์ที่สุดก็เห็นจะเป็น รถคลาสสิกมากมายหลายสไตล์ที่มาจอดให้ผู้คนที่มาเที่ยวตลาดรถไฟรัชดาได้ชมไปพร้อมๆ กับการเลือกซื้อเลือกชมของที่ถูกใจ อีกทั้งรถแต่ละคันโดยเฉพาะรถที่เป็นร้านอาหารก็ยังมีการตกแต่งแบบไก๋ไก๋พร้อมชื่อแนวๆ ถูกอกถูกใจของผู้ที่ผ่านไปมารวมถึงฉัน นอกจากจะมีรถคลาสสิกให้ได้ชมแล้วในโซนนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของร้านสินค้ามือสอง ร้านตัดผมแบบแนวๆ ให้ได้แวะมาใช้บริการอีกด้วย 

หลบแดดร้อน ชอปเพลินยามค่ำ ที่ “ตลาดนัดรถไฟ รัชดา”

โซนสุดท้ายที่ฉันจะขอแวะก่อนกระเป๋าสตางค์ฉันจะเบาไปมากกว่านี้ ก็จะเป็น “โซนร้านอาหารการกิน” ที่มีร้านอาหารมากมายนานาชนิดให้ได้มาแวะลองลิ้มชิมรสหรือซื้อกลับไปกินที่บ้าน ฉันขอเตือนว่าอย่ามาเดินโซนนี้ในช่วงเวลาหิวเป็นอันขาด เพราะอาหารทุกๆ อย่างจะดูน่ากินไปหมด หลังจากนั้นอาหารทุกๆ อย่างก็จะอยู่ในมือของเรา ซึ่งฉันก็พลาดไปแล้วจึงขอมาเตือนไว้ก่อน 



ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา แหล่งช๊อปปิ้งของนักช๊อปยามค่ำคืน

      
      เพิ่งเปิดได้ไม่นานนัก แต่ดูจะเป็นที่สนใจของเหล่านักช๊อปและนักกินทั้งหลาย กับตลาดนัดแห่งใหม่ “ตลาดนัดเลียบด่วน” By ชัช ตลาดไทย  กับพื้นที่ตลาดกว้าง 16 ไร่  กับพื้นที่จอดรถ 17  ไร่ เริ่มเปิดขายกันตั้งแต่ 17.00 -02.00 น. ทุกวันอังคาร พุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์  ตั้งอยู่แถวๆ เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์   

 ถึงแม้จะเปิดตัวกันไปไม่นานนัก แต่ต้องยอมรับว่าที่ตลาดนัดเลียบด่วนแห่งนี้ ได้รับความนิยมอย่างมากทีเดียว ด้วยการจัดตลาดที่แบ่งเป็นโซนต่างๆ ให้เหล่านักช๊อปทั้งหลายได้เดินเลือกจับจ่ายใช้สอยกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนขายของมือสอง แนวๆ ตลาดคลองถม  โซนขายเสื้อผ้า ของจุกจิกต่างๆ  โซนอาหารการกินที่มีให้เลือกซื้อทั้งแบบกลับบ้านและนั่งกินที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม มีหมด บางร้านตกแต่งร้านเก๋ไก๋น่านักไม่น้อยเลยละค่ะ คงเพราะตลาดนี้ขายกันยาวไปจนตีสองจึงมีร้านเครื่องดื่มอยู่หลายร้านพอสมควร 


พ่อค้า แม่ค้าที่นี่หลายๆ คนย้ายมาจากตลาดนัดรถไฟ ทีมงานลองคุยๆ กับพ่อค้ารายหนึ่ง ลองต่อราคากางเกงขาสั้น ผ้าเนื้อดีทีเดียว เค้าขายราคา 200 บาท เค้าบอกว่า ราคานี้ลดไม่ได้แล้วครับ เค้ายังบอกอีกว่า ค่าเช่าร้านที่ตลาดนี้ถูก เค้าจึงขายได้ถูกกว่าเอาไปขายที่อื่น เอาไปขายที่ตลาดนัดแถวพระรามสี่ ขายอยู่ที่ 250-280 บาท ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เราเองก็เคยไปเดินซื้อที่ตลาดนัดแถวๆ บางกระปิ กางเกงเนื้อผ้าประมาณนี้ ขายกันที่ราคา 250 บาท  เราจึงสรุปได้ว่าสินค้าที่ขายที่ตลาดนัดเลียบด่วนนี้ราคาไม่โหดร้ายเกินไปนัก


มาชมอารยธรรมทางประวัติศาสตร์กันบ้างเนอะ

   พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร แต่เดิมเป็นวังหน้าของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับวังหลวง ประกอบพระที่นั่งที่สำคัญ ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธศวรรย์ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ต่อมาในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขึ้นที่ศาลาสหทัยสมาคม เรียกว่า “มิวเซี่ยม” แล้วจึงย้ายมาไว้ที่วังหน้าของกรมพระราชวังบวรฯ ซึ่งบางส่วนกลายเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริเวณข้างเคียงมีโรงเรียนช่างศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป์ และโรงละครแห่งชาติอยู่ในบริเวณเดียวกัน 
สิ่งที่น่าสนใจนอกจากพิพิธภัณฑ์แล้วยังมีวัดบวรสถานสุทธาวาส ตั้งอยู่ภายในบริเวณวังหน้าใกล้กับโรงเรียนช่างศิลป์ วัดนี้เรียกกันว่า “วัดพระแก้ววังหน้า” พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุต่าง ๆ มากมาย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย และชาติเพื่อนบ้าน  นับเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของประเทศไทยสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2402 จัดแสดงข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ โบราณคดี และชาติพันธุ์วิทยา ปัจจุบันแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ส่วนแรกเป็นส่วนของประวัติศาสตร์ชาติไทย จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของชนชาติไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทยโดยสังเขป โดยจัดแสดง ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ส่วนที่สองคือส่วน ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี เป็นการจัดแสดงวิวัฒนาการของศิลปะและโบราณคดีในประเทศไทย ลำดับตามยุคสมัย โดยจัดแสดงที่อาคารมหาสุรสิงหนาทและอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ต่อมาคือส่วน ประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างประณีต หรือเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันแต่โบราณ เช่น เครื่องเงิน เครื่องทอง เครื่องถม เครื่องมุก เครื่องดนตรี เครื่องไม้จำหลัก เครื่องประกอบการเล่นมหรสพต่าง ๆ เครื่องแต่งกายและผ้าโบราณ เครื่องถ้วย อาวุธโบราณ ราชยานคานหาม ราชรถและเครื่องประกอบการพระราชพิธีพระบรมศพ เป็นต้น โดยจัดแสดงที่อาคารหมู่พระวิมานและโรงราชรถ และส่วนสุดท้ายเป็นอาคารโบราณสถาน จัดแสดงอาคารหมู่พระที่นั่งในพระราชวังบวรสถานมงคลมาแต่เดิม รวมทั้งอาคารที่เคลื่อนย้ายมาจากพระราชวังต่าง ๆ เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ตำหนักแดง พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศไนย ศาลาลงสรง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุที่สำคัญมากมาย เช่น พระพุทธสิหิงค์, พระชัย, พระพุทธรูปโปรดมหิศรเทพบุตร, พระพุทธรูปประทับรอยพระพุทธบาท เป็นต้น สถานที่สำคัญที่แห่งหนึ่งคือ "หอแก้วศาลพระภูมิพระราชวังบวรสถานมงคล" ที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท พระมหาอุปราชในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นเป็นที่สถิตของพระภูมิเจ้าที่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้าของผืนแผ่นดินที่สร้างวัง ปัจจุบันนับถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งประจำกรมศิลปากร 
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมศึกษามรดกทางวัฒนธรรมของไทยทรงคุณค่านี้ได้ ทุกวัน เว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท สอบถามรายละเอียด โทร. 0 2224 1370, 0 2224 1333 หรือ www.finearts.go.th




ล่องทริปทะเลใต้

      สวัสดีคะเพื่อนๆ ชาวบลูแพนเน็ตทุกคน รีวิวนี้เป็นการรีวิวท้องทะเลไทยทางภาคใต้ที่เราเคยได้ไปสัมผัสมา
ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ทรัพยากรของไทยมีมากมายเราต้องช่วยกันอนุรักษ์เที่ยวอย่างสร้างสรรค์ให้มัน
เป็นสมบัติของชาติต่อไปนะคะ รีวิวนี้มีหลายเกาะหลากหลายความงาม เรามาเริ่มที่จังหวัด
ใกล้กันก่อนไล่ไปตามระยะทาง และรูปทั้งหมดถ่ายด้วย iphone และ gopro เป็นภาพใต้น้ำ

เริ่มกันที่ เกาะเต่าและเกาะนางยวน / อ่าวไทย / สุราษฎร์ธานี การเดินทางไปเกาะเต่าไปได้ทั้งทางชุมพรและเกาะสมุยค่ะ 



ไปต่อกันที่เกาะเต่า เกาะเต่าใหญ่มีหลายหาด หลายอ่าวมีความหลากหลายทางกิจกรรมแล้วแต่คนชอบจุดไหน
ภาพนี้คืออ่าวม่วง เป็นจุดดำน้ำของทัวร์ มีที่พักให้บริการ เราพักที่อ่าวม่วง 1 คืนค่ะ




มากันที่ทัวร์พีพี



ไม่ค่อยมีคนไทยอีกเช่นเคยบนเกาะลันตาร้อยละ 90% เป็นมุสลิมนะคะ ลันตามีหลายหาดที่พักมากมายและแต่เราจะเลือกเลยคะแต่ถามคนพื้นที่มาว่า 
หากคลองดาวสวยที่สดบนเกาะคะ แต่เราพักที่หาดคลองโขงคะ ตอนน้ำขึ้นสวยแต่ตอนน้ำลงมันจะเป็นโขดหินค่ะ





Art box สถานที่ช๊อปแหล่งรวมวัยมันส์

       ถ้าพูดถึงสถานที่สุดฮิปซึ่งกำลังเป็นกระแสฮอตฮิตสุดๆในตอนนี้คงหนีไม่พ้นตลาดนัดตู้คอนเทนเนอร์แห่งแรกอย่าง Art Box ดีไซน์เก๋ไก๋ตกแต่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์สีขาวสวยแบบนี้ Forfur ไม่พลาดที่จะไปเก็บบรรยากาศมาฝากแน่นอนค่ะ





Art Box มักกะสันเป็นโครงการตลาดนัดตู้คอนเทนเนอร์แห่งแรกซึ่งจัดในรูปแบบใหม่ โดยการผสมผสานความเป็นตลาดนัดและนิทรรศการเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้สามารถเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายไว้อย่างครบถ้วน เพราะมาที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้ช้อปของแฮนด์เมดดีไซน์สุดเก๋แนววินเทจ ยังมีของตกแต่งบ้าน ดนตรี งานศิลปะให้ชมกันอย่างเต็มอิ่มจุใจอีกด้วย ส่วนบรรยากาศภายในงานจะเป็นอย่างไร แล้วที่นี่มีร้านไหนเด็ดๆบ้าง ตามไปชมด้านในกันเลยค่ะ




การตกแต่งภายในงานใช้ซุ้มตู้คอนเทนเนอร์สีขาวกั้นเป็นโซนไว้สำหรับร้านค้ามีทั้งหมด 4 โซนด้วยกันตั้งแต่ A-D ซึ่งจะรวบรวมสินค้าสไตล์วิทเทจต่างๆทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวก ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน อาหารการกินและมุมนั่งชิลล์ต่างๆอีกมากมาย




ชมส่วนของพื้นที่นั่งชิลล์กันบ้างค่ะ มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบริการ ใครอยากจะมาแฮงเอ้าท์เพลินๆกับเพื่อนฝูงก็ทำได้อย่างสบาย โซนนี้จะอยู่ใกล้กับเวทีทำให้สามารถนั่งฟังดนตรีสดเคล้าอารมณ์ไปได้อีกด้วย ฟินกันไปเลย~ และตามสไตล์ของ Forfur แล้วมาเที่ยวในงานทั้งที ไม่พลาดที่จะสรรหาร้านเด็ดๆเกี่ยวกับของตกแต่งบ้านมาฝากกันอยู่แล้วค่ะ จะมีร้านไหนเจ๋งๆบ้างตามไปชมกันต่อเลยดีกว่า....




อาใจคนรักธรรมชาติกับการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวไปกับ 2 ร้านสวนจิ๋วในขวดแก้วแสนสวย "PARTNER BY PRAEW & ART" เน้นการขายต้นไม้ดอกและไม้ประดับน่ารักๆพร้อมกระถางไม้ให้ไปตกแต่งบ้านเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อย่างงดงาม 






แถมไม่ต้องกลัวหิวกันเลยเพราะภายในงานมีของกินเด็ดๆเจ๋งๆมากมาย ทั้งข้าวผัดอเมริกัน ของแปลกใหม่อย่างข้าวโพดปิ้งสไตล์เม็กซิกัน และของกินมากมายหลายชนิดเลือกกันได้อย่างจุใจ




ปิดท้ายความฟินไปกับมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์จากศิลปินภายในงาน ที่ช่วยเสริมบรรยากาศความสนุกให้การเดินเล่นชิลล์ๆมากขึ้นไปอีก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่ชาวฮิปไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ไม่ว่าจะชื่นชอบช้อปปิ้ง สนใจของแต่งบ้าน หรืออยากไปลองอาหารแปลกใหม่ ที่นี่จัดไว้พร้อม....

ไปเที่ยวเกาะเสม็ดกันน

 เดือนเมษาหน้าร้อนในปีนี้ หลายคนคงเตรียมทริปดี ๆ ไว้สำหรับพักผ่อน หย่อนใจ คลายความร้อน กันแล้วล่ะ และแน่นอน แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ คงหนีไม่พ้น "เกาะเสม็ด" สถานที่ยอดฮิตพิชิตความร้อนของเมืองระยองฮินั่นเอง 

          เสน่ห์มัดใจของที่นี่ นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัสแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกทั้งยามกลางวันและค่ำคืน ที่สำคัญการเดินทางไปก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วยนะ นอกจากนี้ ภายในเกาะเสม็ด ยังประกอบไปด้วยชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่เรียงรายยาวสุดลูกลูกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างการันตีว่า ถ้าไปถึงแล้วแทบจะไม่อยากกลับเลยทีเดียว 

หาดทรายแก้ว  ชายหาดชื่อคุ้นหู สำหรับนักท่องเที่ยว ที่หลงใหลในความเฮฮาปาร์ตี้ เรียกว่าเป็นหาดที่ไม่เคยหลับ เพราะมีกิจกรรมร้อยแปดให้เลือกสรร เริ่มอุ่นเครื่องในช่วงเช้าด้วยการเล่นน้ำทะเล ต่อด้วยนอนเอกเขนกรับแสงแดดในช่วงกลางวัน จากนั้นมานั่งเล่นยามเย็นชมพระอาทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดริ๊งค์แอนด์แดนซ์ใต้แสงจันทร์  โอ๊ย! มันส์หยดติ๋งจนลืมเวลากลับเลยล่ะคะ





อ่าววงเดือน คึกคักไม่แพ้ หาดทรายแก้ว เพียงแต่อ่าวนี้ยังพอมีมุมสงบ ให้ผู้ที่มีโลกส่วนตัวสูงปลีกวิเวกไปทางด้านหัวอ่าวได้ ส่วนชาวแก๊งค์ที่รักความสนุกสนาน ไปรวมตัวกันที่กลางอ่าวได้เลย 






หาดคลองพร้าว ลักษณะหาดกว้างเป็นครึ่งวงกลม เหมาะสำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ตก และที่สำคัญบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับผู้คนที่อยากหลบหนีความวุ่นวายดีนัก  ส่วนชายหาดที่นี่จะกว้างมากชวนเพื่อนฝูงเล่นกีฬาริมหาดได้สบาย





อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่รักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด  ฉะนั้นถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาดเลยทีเดียว 






เป็นยังไงกันบ้างค้ะกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเลคงถูกใจใครหลายๆคนที่ชอบทะเลเนอะ หน้าร้อนนี้ก้อย่าลืมไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายกาย สบายกันกันน้า

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

แนะนำตัว

 ขอแนะนำตัวเองนะค่ะ ดิฉันชื่อ นางสาวสาริณี วิวัฒน์ศรีไพบูลย์ ม.5/1 เลขที่18 เป็นแอดมินคนนึงในเพจ Review Thailand ค่ะ เพจของเรานั่นทำขึ้นมาโดยที่อยากในทุกคนรู้ว่าเมืองไทยเรานั้นมีดีไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆมากกมายที่ทุกคนก็ต่างยังไม่รู้ว่ามีอยู่ในประเทศไทยเรา ก่อนที่เราจะไปเที่ยวต่างประเทศ ลองมองย้อนดูประเทศบ้านเกิดตัวคุณก่อน ยังมีอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอคอยให้พวกคุณทั้งหลายไปเยี่ยมชม ไปดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติทั้ง ป่า เขา น้ำตก ทะเล สถานที่ช๊อปปิ้ง สถานที่ชวนชิม ต่างๆนาๆ ใครที่อยากรู้ว่าประเทศไทยเรานั้นมีสถานที่ไหนน่าสนใจอยู่บ้าง ก้ติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพจของเราได้ในFace book และติดตามทาง Blogger ได้เลยนะค้ะ